5 เทรนด์ไอทีตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ไม่ควรมองข้าม

เทรนด์ไอทีในการทำสื่อ Social Media เป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจให้ครบทุกรูปแบบ ว่าแต่ละสื่อเหมาะกับกลุ่มลูกค้าในลักษณะไหน อายุเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมาบอกเทรนด์ไอทีตอบโจทย์ผู้บริโภคที่คุณควรรู้ เพื่อจะได้ใช้ช่องทางการสื่อสารได้ถูกต้อง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น
1.Instagram หรือ IG
เทรนด์นี้ผู้ใช้งาน IG ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เพราะว่ามีสถานที่หรือโลเคชั่น ร้านอาหาร มุมถ่ายภาพสวย ๆ ถูกใจคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแล้วอัปโหลดขึ้นแสดงใน Instagram ซึ่งอาจจะเป็นภาพถ่ายตนเอง ถ่ายภาพสถานที่ วิวทิวทัศน์ หรือสิ่งต่าง ๆ ตามที่ตนเองสนใจ เป็นเหมือนห้องแกลอรี่ส่วนตัวในการแสดงมุมมองและนำเสนอความเป็นตัวตนได้อย่างอิสระ
2.Facebook Fanpage
Facebook Fanpage เป็นเทรนด์ไอทีที่ผู้ใช้งานมีทุกระดับ ทุกเพศทุกวัย และมีการใช้งานตลอดเวลา จึงต้องมีข้อมูลเพจอย่างครบถ้วน การตั้งชื่อเพจเพื่อให้ลูกค้าค้นหาพบจะต้องเป็นคีย์เวิร์ดที่มีความเข้าใจง่าย เช่น คำว่า “รองเท้าลำลอง ราคาไม่เกิน 2,000” หรือ “กระเป๋าถือ ผู้หญิง ยอดนิยม 2020” เป็นต้น โดยให้เตรียมภาพสินค้าและข้อมูลอย่างชัดเจน เช่น ขนาด น้ำหนัก ข้อมูลแนะนำการใช้งาน ราคา การรับประกัน และรีวิวจากลูกค้า ก็จะช่วยให้ผู้ชมตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและเกิดความเชื่อถือมากกว่าด้วย หากให้ข้อมูลสินค้าไว้อย่างครบถ้วน ลูกค้าก็ไม่จำเป็น ต้องแชทหรือโทรสอบถามเพิ่มเติมมากนัก ช่วยลดเวลาติดต่อสื่อสารไปได้มาก
3.LINE@
เทรนด์ไอที ด้วยการใช้ LINE@ เป็นหนึ่งในช่องทางยอดนิยมที่ช่วยปิดการขายได้ หลายคนให้ LINE@ บนเพจ Facebook ทำให้ลูกค้า @ ไปเป็นเพื่อนเรียบร้อย สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน LINE@ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ที่สำคัญ อย่าลืมที่จะส่งข้อมูลมาหาลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ส่งโปรโมชั่นดี ๆ หรือว่าสินค้าที่ลูกค้าต้องการ เพราะลูกค้าอาจจะลืมเพจหรือร้านค้าของคุณได้หากไม่ได้โปรโมทสม่ำเสมอ
4.เว็บไซต์ของธุรกิจ หรือ เว็บไซต์ที่ให้บริการมาร์เก็ตเพลส
เทรนด์ไอทีอีกช่องทางที่ขาดไม่ได้เลยเพราะสามารถปิดยอดขายให้คุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้อำนวยความสะดวกให้กับแม่ค้าออนไลน์เนื่องจากไม่ต้องนั่งเฝ้า Website หรือคอยตอบคำถามลูกค้าตลอดเวลา เพียงทำระบบเว็บไซต์ให้ได้มาตรฐานอย่างมีคุณภาพ ก็สามารถได้เงินตลอด 24 ชั่วโมง
ตัวอย่างระบบการทำงานของเว็บไซต์ เริ่มจากการแสดงข้อมูลสินค้าอย่างละเอียด เช่น ขนาด สี ราคา จำนวนสต๊อก รวมถึงระบบรับชำระเงิน เมื่อลูกค้าสั่งซื้อและจ่ายเงินแล้ว หลังจากนั้นก็จะมีอีเมลส่งเข้ามาแจ้งว่า สินค้ากำลังจัดส่ง พร้อมแจ้งสถานะการจัดส่ง ถือว่าเป็นเทรนด์ไอทีที่ให้ความสะดวกสบายมาก
5.AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์
หลายคนคงคุ้นหูและได้ยินคำว่า AI มาบ้างแล้ว ว่าจะถูกนำมาใช้ทำงานแทนคน ถือว่าเป็นเทรนด์ไอทีที่ผู้ประกอบการจะต้องเริ่มตื่นตัวด้วยการศึกษาว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ คืออะไร และเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร เช่น เรื่องของการสร้าง Website ที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มลูกค้า ทำให้สามารถส่งโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีไอทีที่ก้าวล้ำ มีส่วนช่วยให้ดำเนินธุรกิจได้สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนการติดต่อสื่อสารและการขนส่ง รวมถึงทำให้เปิดรับลูกค้าได้ตลอดเวลาไม่มีวันหยุด และทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้เวลาและเงินทุนที่ประหยัดได้ ไปมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป